น้ำมันเมล็ดทับทิม Pomegranate seed oil 100ml.

Pomegranate Seed Oil
Common Name : Pomegranate Seed Oil
INCI Name : Punica grantaum
Result and Effect : Astringent
Free radicalscavenger
Dosage : 2 - 4%

Pomegranate Extract
ทับทิม : ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งมีมากทั้งใน เปลือก ผล เมล็ด และน้ำทับทิม ได้แก่ Polyphenols anthocyanins Anthrocyanidins Ellagic acidderivatives และ Hydrolyzable tannins มีสรรพคุณในการยับยั้ง และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดสิว ยับยั้งการเกิดเชื้อรา มีฤทธิ์ในการสมานแผล ลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน ลดความมันส่วนเกิน และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต่อต้านการทาลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น ช่วยบาบัดเซลล์ผิวจากการตกค้างของสารพิษโลหะหนักต่างๆ และมีวิตามินซีสูง ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส

สรรพคุณ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่อุดมด้วยสารกลุ่มโพลีฟีนอล และเป็น Anti-Oxidant ที่ดีมากต่อผิวพรรณโดยพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รอยด่างดำ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ผลทับทิมให้ปริมาณ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าไวน์แดง และ ชาเขียว ถึง 3 เท่า

หน้าที่หลัก
-ช่วยชะลอความชรา
-ฟื้นฟูระบบการทางานของร่างกาย
-บำรุงผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
-ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส ลดการผลิตเม็ดสี ทำให้ผิวขาวขึ้น


คุณสมบัติและสารสาคัญ
น้ามันจากเมล็ดทับทิม 95% punicic acid ellagic acid fatty acid sterols
ผลทับทิม punicalagins gallic acid fatty acid catechin quercetin rutin
flavonols flavones flavonones anthocyanidins

puracaligins

สรรพคุณโครงสร้างของสาระสาคัญ

เมล็ด และน้าทับทิม มีสารสาคัญคือ puracaligins ellagic acid เป็น phenolic compound มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) นอกจากนี้ยังพบว่า ellagic acid มีผลยับยั้งการสร้างเม็ดสี เมลานิน ด้วยกลไกลดการทางานของเอนไซม์ tyrosinase ทาให้สีผิวที่ถูกกระตุ้นจากรังสียูวี ขาวขึ้นได้
ทับทิมมีถิ่นกาเนิดแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แล้วแพร่ขยายพันธุ์สู่ดินแดนเทือกเขาหิมาลัย ตลอดจนตอนเหนือของอินเดีย นอกจากนี้ยังมีการเพาะปลูกทางตอนใต้ของเอเชีย และปลูกอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
เป็นพืชในเขตร้อน เป็นพืชที่มีอายุหลายพันปี มีแหล่งกาเนิดใน เปอร์เซีย (อิหร่าน ปากีสถาน อินเดีย และบริเวณโดยรอบ) ด้วยความที่เป็นพืชที่มีอายุมาหลายพันปี จึงมีความเกี่ยวเนื่องกับประเพณี ความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรม ของหลายชนชาติทั่วโลก ด้วยความที่เป็นพืชทนแล้ง และ ปรับตัวเข้าได้กับทุกสภาพอากาศในโลก แม้แต่ในสภาพอากาศที่ลบถึง 12 องศาฯ ทับทิมก็ยังทนอยู่ได้

1. ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจาก น้าทับทิม และสารสกัดจากเมล็ดทับทิม พบว่า มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และลด macrophage oxidative stress รวมทั้งลดการเกิดกระบวนการ lipid peroxidation ในสัตว์ทดลอง และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดของคนสูงอายุ
การศึกษาวิจัย ของ GuoCetal (2008) ในคน พบว่า คนสุขภาพดีที่ได้รับน้าทับทิมปริมาณ 250 ml ต่อวันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ สามารถเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดได้อย่างมีนัยสาคัญ ซึ่งสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของทับทิมคือ สารประกอบฟีนอลิค (phenolic compounds) ได้แก่ puracaligins และellagic acid
2. ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory)

การศึกษาวิจัยในหลอดทดลอง พบว่าสารสกัดน้ามันจากเมล็ดทับทิมซึ่งก็คือ punicic acid มีฤทธิ์ยับยั้งสารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ (inflammatory mediators) ที่สาคัญได้แก่ cyclooxygenase และlipooxygenase ส่งผลให้ไม่เกิดกระบวนการอักเสบ Ahmed Setal (2005) ศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบในโรคข้อเสื่อม (osteoarthritis) พบว่าสารสกัดจากผลทับทิมมีฤทธิ์ยับยั้ง matrix metalloproteinases (MMPs) และยับยั้ง Interleukin-1beta (IL-1β) ทาให้ป้องกันการเสื่อมสลายของคอลลาเจนบริเวณข้อ ลดการทาลายข้อในผู้ป่วยโรคข้อเสื่อม
3. ต้านเชื้อแบคทีเรีย (antibacterial)
มีการศึกษาทดลองในคนในเรื่องฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดจากทับทิม โดยเน้นศึกษาเชื้อบริเวณช่องปาก ได้แก่ Staphylococcus aureus (MRSA) และ Staphylococcus aureus (MSSA) โดยให้สารสกัดทับทิมร่วมกับยาปฏิชีวนะหลายชนิด ได้แก่ chloramphenical gentamicin tetracycline oxacillin และ ampicillin ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากทับทิมเมื่อให้ร่วมกับยา ampicillin ให้ประสิทธิผลยับยั้งการเจริญของเชื้อได้ดีมากกว่าให้ยา ampicillin แบบเดี่ยวๆนอกจากนี้ยังมีการศึกษาฤทธิ์ฆ่าเชื้อ Escherichia coli (E. coli) ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย โดยใช้สารสกัดจากเปลือกทับทิม เปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่น 7 ชนิดของประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากเปลือกทับทิม มีฤทธิ์สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ และ ฆ่าเชื้อ E. coli ได้ สารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้คือ ellagitanin punicalagin